สวัสดีครับทุกคน! ผม นพ.อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ หมอเติ้ง ครับ ว.35777 แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Aurora Clinic คลินิกศัลยกรรมตกแต่ง ที่ตั้งใจปั้นแต่งความงามให้ทุกท่านอย่างพิถีพิถัน ทั้งที่ สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย วันนี้ผมจะมาพูดคุยถึงเรื่องที่ฮอตฮิตตลอดกาล นั่นก็คือ "ฟิลเลอร์" ครับ

เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า "ฟิลเลอร์" กันมาบ้างแล้ว บางคนอาจจะเคยฉีดแล้ว หรือบางคนอาจจะยังลังเลสงสัยว่า เอ๊ะ! เจ้าฟิลเลอร์เนี่ย มันคืออะไรกันแน่? เติมแล้วจะดูดีขึ้นจริงไหม? หรือจะกลายเป็น "ป้า" แทนที่จะเป็น "น้อง"? วันนี้ผมจะมาไขทุกข้อสงสัยแบบหมดเปลือกในสไตล์หมอเติ้ง ที่เน้นความเข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และที่สำคัญคือ "สวยอย่างเป็นธรรมชาติ" ครับ

ในฐานะแพทย์ที่อยู่ในวงการความงามมานาน ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านนี้มาโดยตลอด และ "ฟิลเลอร์" ก็ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ผมประทับใจมาก เพราะมันสามารถช่วยแก้ปัญหาความงามต่างๆ ได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดใหญ่ให้เจ็บตัวนาน

แต่ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกถึงเรื่องฟิลเลอร์กัน ผมขออนุญาตแนะนำตัวเองและ Aurora Clinic ของเราให้ทุกท่านได้รู้จักกันก่อนนะครับ

หมอเติ้ง...ผู้หลงใหลในศาสตร์แห่งความงาม

ผมเริ่มต้นเส้นทางของการเป็นแพทย์ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลสุขภาพของผู้คน แต่เมื่อได้สัมผัสกับศาสตร์แห่งความงาม ผมก็พบว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจและท้าทายไม่แพ้กัน การได้เห็นรอยยิ้มและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของคนไข้หลังจากได้รับการดูแลจากเรา มันเป็นความสุขที่เติมเต็มหัวใจของผมอย่างบอกไม่ถูก

ผมจึงตัดสินใจศึกษาและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องในด้านศัลยกรรมตกแต่งและเวชศาสตร์ความงาม เพื่อนำความรู้และประสบการณ์มามอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไข้ที่ Aurora Clinic ทุกคนครับ

ปรัชญาในการทำงานของผมคือ "ความงามที่แท้จริงคือความงามที่มาจากภายใน" ดังนั้น การเสริมความงามภายนอกจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและดึงเอาความงามที่ซ่อนอยู่ภายในออกมาให้เปล่งประกายมากยิ่งขึ้นครับ

Aurora Clinic โอเอซิสแห่งความงามของคุณที่สุราษฎร์ธานีและเกาะสมุย

Aurora Clinic ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพียบพร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ทุกท่านได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

เรามีสองสาขาด้วยกันครับ สาขาแรกตั้งอยู่ที่ใจกลาง สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจังหวัด ทำให้สะดวกสบายต่อการเดินทาง และอีกสาขาของเราตั้งอยู่ที่ เกาะสมุย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ที่นี่เราพร้อมต้อนรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการมาเติมเต็มความงามควบคู่ไปกับการพักผ่อน

บรรยากาศภายในคลินิกของเราถูกออกแบบมาให้มีความอบอุ่น ผ่อนคลาย และเป็นกันเอง เพื่อให้ทุกท่านรู้สึกสบายใจเหมือนมาพักผ่อนมากกว่ามาทำศัลยกรรม เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ไปจนถึงการให้บริการที่ประทับใจ เพื่อให้ทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก Aurora Clinic ครับ

 

ฟิลเลอร์...ตัวช่วยคืนความอ่อนเยาว์ที่ใครๆ ก็ถามถึง

เอาล่ะครับ หลังจากที่แนะนำตัวและคลินิกของเราไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาพูดถึงพระเอกของบทความนี้กัน นั่นก็คือ "ฟิลเลอร์" ครับ

ฟิลเลอร์ (Filler) หรือที่หลายคนอาจจะเรียกว่า สารเติมเต็ม คือ สารที่ใช้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย หรือเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ต้องการ เช่น แก้ม คาง ขมับ หรือริมฝีปาก แต่จริงๆ แล้ว ฟิลเลอร์มีอะไรที่มากกว่าแค่การ "เติมเต็ม" ครับ

ความนิยมของฟิลเลอร์นั้นมาจากหลายปัจจัยครับ ประการแรกคือ ความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัย ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดในปัจจุบันนั้น เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของเรา ทำให้มีความปลอดภัยสูง และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตราย

ประการที่สองคือ ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นได้ชัดเจน หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ส่วนใหญ่จะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยที่ตื้นขึ้น แก้มที่ดูอิ่มเอิบขึ้น หรือริมฝีปากที่ดูสวยงามขึ้น ทำให้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอพักฟื้นนานๆ

ประการที่สามคือ ความหลากหลายในการใช้งาน ฟิลเลอร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเติมเต็มริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม เช่น การเติมคางให้เรียว การเติมแก้มให้มีมิติ หรือแม้แต่การปรับรูปจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งทำให้ฟิลเลอร์เป็นตัวเลือกที่ครอบคลุมสำหรับผู้ที่มีความต้องการที่หลากหลาย

ทำไมใครๆ ก็ถามถึงฟิลเลอร์?

ความนิยมของฟิลเลอร์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญครับ มันเป็นผลมาจากความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ใส่ใจในรูปลักษณ์และต้องการดูดีอยู่เสมอ ประกอบกับข้อดีต่างๆ ของฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้อย่างลงตัว

• ทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด: สำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด หรือไม่ต้องการพักฟื้นนานๆ ฟิลเลอร์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นการทำหัตถการที่ไม่ต้องมีการกรีดหรือเย็บ สามารถทำเสร็จได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• แก้ปัญหาได้ตรงจุด: ฟิลเลอร์สามารถแก้ไขปัญหาความงามได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยเฉพาะที่ การยุบตัวของผิวหนังในบางบริเวณ หรือการปรับปรุงรูปทรงของใบหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล
• ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: เมื่อฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ฟิลเลอร์จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้ดูแข็งกระด้างหรือผิดรูปผิดร่าง
• ความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น: การมีรูปลักษณ์ที่ดีขึ้นย่อมส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง การฉีดฟิลเลอร์จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย

ฟิลเลอร์...ไม่ใช่แค่เรื่องของ "อายุ"

หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขปัญหาความงามได้ในทุกช่วงวัยครับ

 

• ในวัยหนุ่มสาว: สามารถใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม เช่น การเติมคาง เติมริมฝีปาก หรือเติมแก้มให้ดูมีมิติ
• ในวัยกลางคน: สามารถใช้ฟิลเลอร์ในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ หรือเติมเต็มบริเวณที่เริ่มยุบตัว เช่น ใต้ตา แก้ม ขมับ เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
• ในวัยสูงอายุ: สามารถใช้ฟิลเลอร์ในการฟื้นฟูผิวที่สูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน เติมเต็มร่องลึก และยกกระชับผิวหน้าโดยรวม

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยไหน หากมีความกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเอง ฟิลเลอร์ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยคุณได้ครับ

ทำความรู้จักกับ "ไฮยาลูรอนิก แอซิด" (HA) ให้มากขึ้น

ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของ ไกลโคซามิโนไกลแคน (Glycosaminoglycans) ซึ่งเป็นโมเลกุลน้ำตาลเชิงซ้อนที่มีอยู่ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทั่วร่างกายของเราครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณผิวหนัง ข้อต่อ ดวงตา และเนื้อเยื่ออื่นๆ

สิ่งที่ทำให้ HA โดดเด่นและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการความงามก็คือ คุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีเยี่ยม ครับ โมเลกุลของ HA สามารถดึงดูดและกักเก็บน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวมันเองเลยทีเดียว! ลองจินตนาการดูนะครับว่ามันเหมือนกับฟองน้ำขนาดเล็กๆ ที่คอยดูดซับและเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในผิวหนังของเรา

บทบาทสำคัญของ HA ในร่างกาย

HA มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานของร่างกายของเราครับ ไม่ได้มีแค่ในเรื่องของความงามเท่านั้น

• ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง: HA เป็นส่วนประกอบสำคัญของชั้นผิวหนัง ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดี การมี HA ในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยลดปัญหาผิวแห้งกร้าน และช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น
• เป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อ: HA เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนสารหล่อลื่น ช่วยลดการเสียดสีระหว่างกระดูก ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่อเป็นไปอย่างราบรื่น
• มีส่วนช่วยในการทำงานของดวงตา: HA เป็นส่วนประกอบของน้ำวุ้นในลูกตา ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและรูปร่างของดวงตา
• ส่งเสริมการสมานแผล: HA มีบทบาทในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และช่วยในการสมานแผลต่างๆ ในร่างกาย

ทำไมระดับ HA ในร่างกายถึงลดลงเมื่ออายุมากขึ้น?

เมื่อเราอายุมากขึ้น กระบวนการผลิต HA ในร่างกายของเราจะค่อยๆ ลดลงตามธรรมชาติครับ เหมือนกับคอลลาเจนและอีลาสตินอื่นๆ ที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ผลที่ตามมาก็คือ

• ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น: ทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
• ข้อต่อเริ่มมีปัญหา: น้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อลดลง ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย หรือข้อเข่าเสื่อมได้
• ดวงตาอาจแห้ง: ปริมาณ HA ในน้ำวุ้นลูกตาลดลง อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง

HA ในโลกของฟิลเลอร์...ทำไมถึงเป็นที่นิยม?

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการอุ้มน้ำและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ทำให้ HA กลายเป็นส่วนประกอบหลักที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการผลิตฟิลเลอร์ครับ เหตุผลหลักๆ ก็คือ

• ความเข้ากันได้ดีกับร่างกาย: HA เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายของเรา ทำให้มีความปลอดภัยสูง และโอกาสในการเกิดอาการแพ้มีน้อยมาก
• สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ: เมื่อเวลาผ่านไป ฟิลเลอร์ HA จะค่อยๆ สลายตัวไปตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
• ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: ฟิลเลอร์ HA ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบ สดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งกระด้าง
• สามารถฉีดสลายได้: ในกรณีที่ไม่พึงพอใจกับผลลัพธ์ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่คาดคิด สามารถฉีดเอนไซม์ไฮยาลูรอนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อสลายฟิลเลอร์ HA ได้

ฟิลเลอร์ HA มีกี่ประเภท? แตกต่างกันอย่างไร?

ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบหลักคือ HA แต่ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดโมเลกุล ความหนืด ความยืดหยุ่น และการเชื่อมข้ามโมเลกุล (Cross-linking) ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะส่งผลต่อความเหมาะสมในการใช้งานในแต่ละบริเวณของใบหน้า และระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้

• ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่มีผิวบางและละเอียด เช่น ใต้ตา หรือริ้วรอยตื้นๆ
• ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดกลาง: เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่มีความหนาของผิวปานกลาง เช่น แก้ม หรือร่องแก้ม
• ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่ต้องการการยกกระชับหรือการปรับรูปทรง เช่น คาง หรือขมับ

การเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นหน้าที่ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะทำการประเมินและเลือกใช้ให้ตรงกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคลครับ

จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า ไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) เป็นสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความงามและสุขภาพของผิวพรรณ การนำ HA มาใช้ในรูปแบบของฟิลเลอร์จึงเป็นนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์และปรับปรุงรูปลักษณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ในมุมมองของผม ฟิลเลอร์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่สารเติมเต็ม แต่เป็นเหมือน "ศิลปะแห่งการปรับแต่ง" ที่ช่วยเสริมสร้างความงามตามธรรมชาติของแต่ละบุคคลได้อย่างละเอียดและประณีต เมื่อใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีความเข้าใจในโครงสร้างของใบหน้า ฟิลเลอร์สามารถช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ สดใส และมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้นครับ

ฟิลเลอร์...เวทมนตร์ที่ช่วยย้อนวัยได้อย่างไร?

หลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่ฉีดสารเข้าไปใต้ผิวหนัง มันจะช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้จริงหรือ? คำตอบคือ "จริงครับ" แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพนะครับ

กลไกการทำงานของฟิลเลอร์ในการช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ลงนั้นมีหลายประการครับ

ฟิลเลอร์...เติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย คืนความอ่อนเยาว์

ทีนี้เรามาดูกันว่าฟิลเลอร์เข้ามาช่วย "เสก" ให้ใบหน้าของเรากลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อย่างไรบ้างครับ

• เติมเต็มปริมาตรที่หายไป: นี่คือกลไกหลักที่สำคัญที่สุดของฟิลเลอร์ครับ เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณที่ยุบตัว เช่น แก้ม ขมับ หรือใต้ตา ฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่าง ทำให้บริเวณนั้นกลับมาดูอิ่มเอิบ มีมิติ และใบหน้าโดยรวมดูสดใสขึ้น เหมือนกับที่เราเคยมีในวัยเยาว์ ลองนึกภาพลูกโป่งที่แฟบลงเมื่อลมหายไป การเติมลมกลับเข้าไปก็ทำให้ลูกโป่งกลับมาพองสวยงามอีกครั้ง ใบหน้าของเราก็เช่นกันครับ
• ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก: ฟิลเลอร์สามารถฉีดเข้าไปเติมเต็มร่องลึกต่างๆ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำตา หรือริ้วรอยหน้าผาก ให้ดูตื้นขึ้น ผิวหนังบริเวณนั้นก็จะดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับการถมหลุมบ่อบนถนนให้เรียบ ทำให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้น ริ้วรอยบนใบหน้าก็เช่นกันครับ เมื่อถูกเติมเต็มก็จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
• ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน: ฟิลเลอร์สามารถนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม เช่น การเติมคางให้ยาวขึ้น การเติมแก้มให้ดูมีโหนกแก้ม หรือการเติมขมับที่ตอบให้ดูเต็มขึ้น การปรับรูปหน้าให้สมดุลจะช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์และน่ามองยิ่งขึ้น เหมือนกับการปรับองค์ประกอบของภาพให้ลงตัว ทำให้ภาพนั้นสวยงามและน่าสนใจยิ่งขึ้น
• เติมความชุ่มชื้นให้ผิว: ฟิลเลอร์ HA มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ การฉีดฟิลเลอร์จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใส และมีสุขภาพดีขึ้น เหมือนกับการรดน้ำให้ต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา กลับมาสดชื่นและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (ในระยะยาว): ถึงแม้ว่าผลลัพธ์หลักของฟิลเลอร์จะมาจากการเติมเต็ม แต่ในระยะยาว ฟิลเลอร์บางชนิดยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้นในระยะยาว

ฟิลเลอร์...ฉีดตรงไหน? แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

เราจะมาลงลึกในรายละเอียดของแต่ละบริเวณบนใบหน้าที่สามารถใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ไขปัญหาความงามได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ เปรียบเสมือนการมี "แผนที่ฟิลเลอร์" ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าฟิลเลอร์สามารถช่วย "เนรมิต" ความอ่อนเยาว์และความสวยงามได้อย่างไรบ้าง

1. ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eyes/Tear Troughs)
 

• ปัญหา: บริเวณใต้ตาเป็นอีกหนึ่งจุดที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของวัยได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นร่องลึกใต้ตา (Tear Troughs) ที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส หรือขอบตาดำคล้ำจากการยุบตัวของไขมัน
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA ในบริเวณใต้ตาจะช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน สดใส และลดเงาที่ทำให้ดูเหมือนขอบตาดำคล้ำ นอกจากนี้ยังช่วยให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
• ผลลัพธ์: ใบหน้าดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า ดวงตาดูมีชีวิตชีวาขึ้น
• ข้อควรทราบ: การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นบริเวณที่ต้องใช้ความระมัดระวังและเทคนิคที่แม่นยำ เนื่องจากผิวบริเวณนี้มีความบางและบอบบาง การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงสำคัญมาก

2. ฟิลเลอร์แก้ม (Cheeks)

• ปัญหา: เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันบริเวณแก้มจะค่อยๆ ลดลง ทำให้แก้มดูแบน ไม่เต็มอิ่ม ขาดมิติ และอาจทำให้เกิดร่องแก้มที่ชัดเจนขึ้น
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA บริเวณแก้มจะช่วยเติมเต็มให้แก้มดูอิ่มเอิบ มีมิติ และยกกระชับใบหน้าโดยรวม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และมีชีวิตชีวาขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเด่นชัดของร่องแก้มได้อีกด้วย
• ผลลัพธ์: แก้มดูอิ่มสวย มีมิติ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น กรอบหน้าดูคมชัดขึ้นเล็กน้อย
• ข้อควรทราบ: การเติมแก้มควรทำอย่างพอดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ดู "เยอะ" หรือ "ป่อง" เกินไป

3. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม (Nasolabial Folds)

• ปัญหา: ร่องแก้ม หรือเส้นที่ลากจากข้างจมูกลงมาถึงมุมปาก เป็นริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเจนเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีอายุและดูเศร้าหมอง
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA ในบริเวณร่องแก้มจะช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ลง
• ผลลัพธ์: ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
• ข้อควรทราบ: ในบางกรณี ร่องแก้มอาจเกิดจากการหย่อนคล้อยของแก้ม การเติมฟิลเลอร์ที่แก้มร่วมด้วยอาจช่วยให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น

4. ฟิลเลอร์คาง (Chin)

• ปัญหา: คางที่สั้น ถอยร่น หรือไม่ได้รูปทรง อาจทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่สมดุลและขาดมิติ
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA บริเวณคางสามารถช่วยปรับรูปคางให้ยาวขึ้น เรียวสวยขึ้น หรือเติมเต็มคางที่บุ๋มให้ดูสมดุลกับส่วนอื่นๆ ของใบหน้า ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูคมชัดและได้สัดส่วนที่สวยงามยิ่งขึ้น
• ผลลัพธ์: คางดูยาวขึ้น เรียวสวยขึ้น ใบหน้าดูมีมิติและสมดุลมากขึ้น กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
• ข้อควรทราบ: การปรับรูปคางด้วยฟิลเลอร์ควรพิจารณาถึงสัดส่วนโดยรวมของใบหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนและเป็นธรรมชาติ

5. ฟิลเลอร์ขมับ (Temples)

• ปัญหา: เมื่ออายุมากขึ้น บริเวณขมับมักจะยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าดูตอบ ดูโทรม และโหนกแก้มดูเด่นชัดขึ้น
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA ในบริเวณขมับจะช่วยเติมเต็มให้ขมับดูเต็มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และสมดุลมากขึ้น ลดความเด่นชัดของโหนกแก้ม
• ผลลัพธ์: ขมับดูเต็มขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และสมดุลมากขึ้น
• ข้อควรทราบ: การเติมขมับควรทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ดู "นูน" หรือผิดธรรมชาติ

6. ฟิลเลอร์หน้าผาก (Forehead)

• ปัญหา: ริ้วรอยบนหน้าผาก หรือหน้าผากที่แบน ไม่โหนกนูนสวยงาม
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA บริเวณหน้าผากสามารถช่วยเติมเต็มให้หน้าผากดูโหนกนูนสวยงาม ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์และมีมิติมากขึ้น
• ผลลัพธ์: หน้าผากดูเรียบเนียน โหนกนูนสวยงาม ริ้วรอยลดเลือนลง
• ข้อควรทราบ: การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากควรทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับเส้นเลือด

7. ฟิลเลอร์ริมฝีปาก (Lips)

• ปัญหา: ริมฝีปากที่บาง ไม่ได้รูปทรง ริมฝีปากแห้งกร้าน หรือมีริ้วรอยรอบริมฝีปาก
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA บริเวณริมฝีปากสามารถช่วยเติมเต็มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น ได้รูปทรงที่สวยงาม และลดเลือนริ้วรอยรอบริมฝีปาก
• ผลลัพธ์: ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น ได้รูปทรงสวยงาม ริ้วรอยรอบริมฝีปากลดเลือนลง
• ข้อควรทราบ: การเติมริมฝีปากควรทำอย่างพอดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ดู "ปากเป็ด" หรือ "ไส้กรอก" เกินไป 

8. ฟิลเลอร์จมูก (Nose - Non-Surgical Rhinoplasty)

• ปัญหา: จมูกที่ไม่โด่ง ไม่ได้รูปทรง หรือมีสันจมูกที่ไม่เรียบ
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA บริเวณจมูกสามารถช่วยปรับรูปทรงจมูกให้โด่งสวยขึ้น เติมเต็มสันจมูกให้เรียบเนียน หรือปรับปลายจมูกให้เชิดขึ้นได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด
• ผลลัพธ์: จมูกดูโด่งสวยขึ้น ได้รูปทรงที่ต้องการ
• ข้อควรทราบ: การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในโครงสร้างของจมูกเป็นอย่างดี และควรทราบถึงข้อจำกัดของการปรับรูปจมูกด้วยฟิลเลอร์

9. ฟิลเลอร์ร่องมุมปาก (Marionette Lines)

• ปัญหา: เส้นที่ลากจากมุมปากลงมาถึงคาง คล้ายกับหุ่นกระบอก ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมองและมีอายุ
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA ในบริเวณร่องมุมปากจะช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
• ผลลัพธ์: ร่องมุมปากดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น

10. ฟิลเลอร์กราม/กรอบหน้า (Jawline)

• ปัญหา: กรอบหน้าที่ไม่คมชัด หย่อนคล้อย หรือมีเหนียงเล็กน้อย
• ฟิลเลอร์ช่วยได้อย่างไร: การฉีดฟิลเลอร์ HA บริเวณกรามและกรอบหน้าสามารถช่วยปรับให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น ยกกระชับผิวบริเวณกราม และลดความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเรียวและอ่อนเยาว์ขึ้น
• ผลลัพธ์: กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น ผิวบริเวณกรามดูกระชับขึ้น ใบหน้าดูเรียวขึ้น

จะเห็นได้ว่าฟิลเลอร์สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความงามได้หลากหลายบริเวณบนใบหน้า และให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ และชนิดของฟิลเลอร์

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวหน้าและปัญหาความงามของคุณอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ที่ Aurora Clinic เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลทุกท่านอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติที่สุดครับ 

เจาะลึกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ไทย

ในฐานะแพทย์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน ผมมีประสบการณ์ในการใช้ฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อ และแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปครับ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบละเอียดในสไตล์หมอเติ้ง ที่เน้นความเข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกท่านครับ

ข้อสำคัญ: สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นเพียงความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวของผมในการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ Aurora Clinic ทั้งที่ สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย นะครับ การเลือกใช้ฟิลเลอร์ควรอยู่ภายใต้การวินิจฉัยและคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะแต่ละบุคคลมีสภาพผิวและความต้องการที่แตกต่างกันครับ

กลุ่มฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) - พระเอกตลอดกาล

ฟิลเลอร์กลุ่ม HA ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยความปลอดภัยสูง สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ครับ

1. Juvederm (โดย Allergan Aesthetics)

• จุดเด่นในมุมมองหมอเติ้ง: Juvederm เป็นแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางครับ จุดเด่นของเขาคือเทคโนโลยี VYCROSS® ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเรียบเนียน คงทน และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากครับ ผมชอบใช้ Juvederm ในเคสที่ต้องการความละเอียดและความคงทน เช่น การเติมแก้ม เติมคาง หรือปรับรูปหน้าครับ
• รุ่นที่ผมใช้บ่อย:
  • Juvederm Voluma: เนื้อเจลค่อนข้างแน่น เหมาะสำหรับเติมแก้มและขมับ ช่วยยกกระชับและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน (ประมาณ 12-18 เดือน) ผมมักจะแนะนำรุ่นนี้ให้กับคนไข้ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและอยู่ได้นานครับ
  • Juvederm Volift: เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มและปรับรูปหน้าโดยรวม ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานพอสมควร (ประมาณ 12 เดือน)
  • Juvederm Volbella: เนื้อเจลนุ่มละเอียด เหมาะสำหรับเติมริมฝีปากและใต้ตา ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดู "โป๊ะ" และอยู่ได้นาน (ประมาณ 12 เดือน)
  • Juvederm Volite: เนื้อเจลเหลว เหมาะสำหรับฉีดทั่วใบหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี (ไม่ใช่การเติมเต็มโดยตรง) ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
• ข้อดี: คุณภาพสูง ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ คงทน มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้
• ข้อควรพิจารณา: ราคาสูงกว่าบางยี่ห้อ

2. Restylane (โดย Galderma)

• จุดเด่นในมุมมองหมอเติ้ง: Restylane ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงมายาวนานครับ จุดเด่นของเขาคือเทคโนโลยี NASHA™ & OBT™ ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหลากหลายและเหมาะกับการใช้งานในแต่ละบริเวณได้อย่างลงตัว ผมชอบใช้ Restylane ในเคสที่ต้องการความแม่นยำในการปรับรูปหน้า เช่น การเติมคาง เติมจมูก หรือเติมเต็มริ้วรอยเฉพาะจุดครับ
• รุ่นที่ผมใช้บ่อย:
  • Restylane Lyft (เดิมชื่อ Perlane): เนื้อเจลค่อนข้างแน่น เหมาะสำหรับเติมแก้มและคาง ช่วยยกกระชับและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน (ประมาณ 9-12 เดือน)
  • Restylane Refyne: เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มและริ้วรอยระดับปานกลาง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ (ประมาณ 6-12 เดือน)
  • Restylane Defyne: เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มลึกและปรับรูปหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและคงทน (ประมาณ 12 เดือน)
  • Restylane Kysse: เนื้อเจลนุ่ม เหมาะสำหรับเติมริมฝีปาก ให้ผลลัพธ์ที่ดูอวบอิ่มและเป็นธรรมชาติ (ประมาณ 6-9 เดือน)
  • Restylane Vital Light & Vital: เนื้อเจลเหลว เหมาะสำหรับฉีดทั่วใบหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว (ไม่ใช่การเติมเต็มโดยตรง) ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
• ข้อดี: คุณภาพดี มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
• ข้อควรพิจารณา: ระยะเวลาคงทนอาจสั้นกว่า Juvederm ในบางรุ่น

3. Belotero (โดย Merz Aesthetics)

• จุดเด่นในมุมมองหมอเติ้ง: Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่มีเทคโนโลยี Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งทำให้เนื้อเจลมีความละเอียดและกระจายตัวได้ดีมากครับ ผมชอบใช้ Belotero ในเคสที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ บริเวณใต้ตา หรือเติมริมฝีปากให้ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ
• รุ่นที่ผมใช้บ่อย:
  • Belotero Soft: เนื้อเจลเหลวที่สุด เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยตื้นๆ บริเวณใต้ตา หน้าผาก และรอบริมฝีปาก ให้ผลลัพธ์ที่ละเอียดและเป็นธรรมชาติ
  • Belotero Balance: เนื้อเจลระดับกลาง เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มและริ้วรอยระดับปานกลาง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • Belotero Intense: เนื้อเจลค่อนข้างแน่น เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มลึกและปรับรูปหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • Belotero Volume: เนื้อเจลแน่นที่สุด เหมาะสำหรับเติมแก้มและคาง ช่วยยกกระชับและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
• ข้อดี: เนื้อเจลละเอียด กระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้นๆ และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมาก
• ข้อควรพิจารณา: ระยะเวลาคงทนอาจสั้นกว่า Juvederm และ Restylane ในบางรุ่น

4. Neuramis (โดย Medytox)

• จุดเด่นในมุมมองหมอเติ้ง: Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ จุดเด่นของเขาคือเทคโนโลยี SHAPE™ (Stabilized Hyaluronic Acid & Purified Enhancement) ที่ทำให้เนื้อเจลมีความคงตัวและให้ผลลัพธ์ที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าบางยี่ห้อ ผมมักจะใช้ Neuramis ในเคสที่คนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผลครับ
• รุ่นที่ผมใช้บ่อย:
  • Neuramis Deep: เนื้อเจลระดับกลาง เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มและริ้วรอยระดับปานกลาง
  • Neuramis Volume: เนื้อเจลค่อนข้างแน่น เหมาะสำหรับเติมแก้มและคาง
• ข้อดี: ราคาเข้าถึงง่าย คุณภาพดี ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
• ข้อควรพิจารณา: อาจมีข้อมูลและงานวิจัยรองรับน้อยกว่าแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ

5. Yvoire (โดย LG Life Sciences)

• จุดเด่นในมุมมองหมอเติ้ง: Yvoire เป็นฟิลเลอร์อีกยี่ห้อจากประเทศเกาหลีใต้ที่น่าสนใจครับ จุดเด่นของเขาคือเทคโนโลยี HICE (High Concentration Equalized) ที่ทำให้เนื้อเจลมีความหนาแน่นและยืดหยุ่นที่ดี ผมเคยใช้ Yvoire ในเคสที่ต้องการเติมเต็มและปรับรูปหน้า และพบว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
• รุ่นที่ผมใช้บ่อย:
  • Yvoire Classic s: เนื้อเจลระดับกลาง เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มและริ้วรอยระดับปานกลาง
  • Yvoire Volume Plus: เนื้อเจลค่อนข้างแน่น เหมาะสำหรับเติมแก้มและคาง
• ข้อดี: คุณภาพดี ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ราคาค่อนข้างสมเหตุสมผล
• ข้อควรพิจารณา: อาจมีข้อมูลและงานวิจัยรองรับน้อยกว่าแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ

(หมายเหตุ: ยังมียี่ห้อฟิลเลอร์ HA ที่ผ่าน อย. ไทย อีกหลายยี่ห้อ เช่น Revolax, Dermalax, E.P.T.Q. ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันไปครับ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์และความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย)

กลุ่มฟิลเลอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

นอกจากฟิลเลอร์ HA แล้ว ยังมีฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ ที่ใช้ในการเสริมความงามได้เช่นกันครับ

1. Radiesse (โดย Merz Aesthetics) - Calcium Hydroxyapatite (CaHA)

• จุดเด่นในมุมมองหมอเติ้ง: Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ HA แต่มีส่วนประกอบหลักคือ Calcium Hydroxyapatite ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบได้ในกระดูกของเราครับ จุดเด่นของ Radiesse คือความสามารถในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผมมักจะใช้ Radiesse ในเคสที่ต้องการยกกระชับกรอบหน้า เติมเต็มแก้ม หรือลดเลือนริ้วรอยร่องแก้มลึกๆ ครับ
• ข้อดี: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน (ประมาณ 12-18 เดือน) ช่วยยกกระชับผิว
• ข้อควรพิจารณา: ไม่สามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์เหมือนฟิลเลอร์ HA และอาจต้องใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน

2. Sculptra (โดย Galderma) - Poly-L-lactic Acid (PLLA)

• จุดเด่นในมุมมองหมอเติ้ง: Sculptra ก็เป็นฟิลเลอร์อีกชนิดที่ไม่ใช่ HA แต่มีส่วนประกอบหลักคือ Poly-L-lactic Acid ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังอย่างค่อยเป็นค่อยไปครับ ผลลัพธ์ของ Sculptra จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอยู่ได้นานมาก (ประมาณ 2 ปี) ผมมักจะแนะนำ Sculptra ให้กับคนไข้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวในระยะยาวและต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ
• ข้อดี: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ให้ผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติมาก คงทนนาน
• ข้อควรพิจารณา: ผลลัพธ์จะไม่เห็นทันที ต้องรอประมาณ 4-6 สัปดาห์ และอาจต้องทำการรักษาหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องพิจารณาหลายปัจจัยครับ ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวหน้าและความต้องการของคุณอย่างละเอียด และแนะนำชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

เลือกฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ?

ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อและหลายชนิดให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันไป การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

1. เลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและได้รับการรับรอง

• มองหาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน: สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญคือการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ของประเทศไทย หรือหน่วยงานระดับสากลอื่นๆ การได้รับรองหมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้ผ่านการตรวจสอบด้านคุณภาพและความปลอดภัยมาแล้วในระดับหนึ่ง
• รู้จักยี่ห้อและแหล่งที่มา: ควรสอบถามแพทย์ถึงยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่จะใช้ และแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์จากบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีประวัติยาวนานมักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
• ตรวจสอบฉลากและหมายเลขทะเบียน: ก่อนทำการฉีด ควรตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจว่าเป็นของแท้ มีหมายเลขทะเบียนที่ถูกต้อง และยังไม่หมดอายุ

2. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์
 

• เลือกแพทย์ที่มีความรู้ความเข้าใจ: การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างของใบหน้า เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินปัญหาและความต้องการของคุณได้อย่างแม่นยำ และแนะนำชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบริเวณและสภาพผิวของคุณ
• ตรวจสอบประวัติและผลงานของแพทย์: ก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาประวัติการทำงาน วุฒิบัตร และผลงานของแพทย์ อาจดูรีวิวจากผู้ที่เคยรับบริการ หรือสอบถามจากคนรู้จักที่เคยฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ท่านนั้น
• พูดคุยและสอบถามอย่างละเอียด: ในขั้นตอนการปรึกษา ควรเปิดใจพูดคุยถึงความกังวล เป้าหมาย และความคาดหวังของคุณอย่างตรงไปตรงมา ถามคำถามเกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์ที่จะใช้ เทคนิคการฉีด ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ความเสี่ยง และการดูแลหลังการฉีด

3. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ

• ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการ: คลินิกเสริมความงามที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกที่คุณเลือกมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง
• สังเกตความสะอาดและสุขอนามัย: คลินิกที่ดีควรให้ความสำคัญกับความสะอาดและสุขอนามัยของสถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ
• มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย: คลินิกที่ได้มาตรฐานมักจะมีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
• มีระบบการจัดการที่ดี: คลินิกที่ดีควรมีระบบการนัดหมาย การให้ข้อมูล และการติดตามผลการรักษาที่เป็นระบบ

4. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์

• ฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid): เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละบริเวณ
• ฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ: นอกจาก HA แล้ว ยังมีฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ เช่น Calcium Hydroxyapatite (CaHA) หรือ Poly-L-lactic Acid (PLLA) ซึ่งมีคุณสมบัติและระยะเวลาการคงอยู่แตกต่างกันไป แพทย์จะแนะนำชนิดที่เหมาะสมกับคุณ
• อย่าหลงเชื่อฟิลเลอร์ราคาถูกเกินจริง: ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพมักจะมีราคาที่สมเหตุสมผล หากพบคลินิกที่เสนอราคาที่ถูกจนน่าตกใจ ควรระมัดระวัง เพราะอาจเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นของปลอม

5. เข้าใจความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• สอบถามเกี่ยวกับความเสี่ยง: แพทย์ควรแจ้งให้คุณทราบถึงความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ เช่น อาการบวมแดง ช้ำ หรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายได้เองภายในไม่กี่วัน
• รู้จักสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน: ควรรู้ว่าสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมีอะไรบ้าง และควรติดต่อแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น

6. อย่าลังเลที่จะถามคำถาม

• ถามทุกข้อสงสัย: ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับทุกสิ่งที่คุณสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ เทคนิคการฉีด ผลลัพธ์ที่คาดหวัง การดูแลหลังการฉีด หรือค่าใช้จ่าย
• ความเข้าใจที่ตรงกัน: การพูดคุยและทำความเข้าใจกับแพทย์อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและลดความกังวล

7. พิจารณาจากรีวิวและความเห็นของผู้ใช้บริการจริง

• อ่านรีวิว: การอ่านรีวิวจากผู้ที่เคยรับบริการจากคลินิกหรือแพทย์ท่านนั้น อาจช่วยให้คุณได้ข้อมูลเพิ่มเติมและเห็นภาพรวมของประสบการณ์การรักษา
• สอบถามจากคนใกล้ชิด: หากมีคนรู้จักที่เคยฉีดฟิลเลอร์และมีผลลัพธ์ที่ดี ลองสอบถามข้อมูลและคำแนะนำจากพวกเขา

การเลือกฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจนั้น ต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบในหลายๆ ด้านครับ ตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ที่ Aurora Clinic เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ทุกท่าน เราเลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ผ่านการรับรองจาก อย. และฉีดโดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์และความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติครับ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์...ง่ายกว่าที่คิด!

สำหรับใครที่ยังไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ อาจจะกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนการทำ ผมขอบอกเลยว่ามันง่ายกว่าที่คิดมากครับ

1. ปรึกษาแพทย์: แพทย์จะทำการประเมินและวางแผนการรักษา
2. ทำความสะอาดผิว: พนักงานจะทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำการฉีด
3. ทายาชา: แพทย์จะทายาชาบริเวณที่จะทำการฉีด เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
4. ฉีดฟิลเลอร์: แพทย์จะค่อยๆ ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใต้ผิวหนังในบริเวณที่ต้องการ
5. นวดคลึง: หลังฉีด แพทย์จะทำการนวดคลึงเบาๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ

โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาทีเท่านั้นครับ และหลังทำสามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์...เพื่อให้สวยเป๊ะปังนานๆ

ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น แต่การดูแลตัวเองหลังทำก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยาวนาน

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดคลึงบริเวณที่ฉีด: ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดคลึงบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
• ประคบเย็น: หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำ สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการได้
• หลีกเลี่ยงความร้อน: ควรงดการทำกิจกรรมที่สัมผัสกับความร้อน เช่น การอบซาวน่า หรือการออกกำลังกายอย่างหนัก ในช่วง 2-3 วันแรกหลังฉีด
• ดื่มน้ำเยอะๆ: การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงความชุ่มชื้นและอยู่ได้นานขึ้น
• หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าจัด: ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ควรงดการแต่งหน้าจัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
• พบแพทย์ตามนัด: ควรกลับมาพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อติดตามผลการรักษา

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์

ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้าง เช่น อาการบวมแดง ช้ำ หรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่พบได้น้อยมาก อาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่านั้นได้ เช่น การติดเชื้อ การแพ้ฟิลเลอร์ หรือการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ดังนั้น การเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้

ที่ Aurora Clinic เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก ทีมแพทย์ของเรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาคของใบหน้าเป็นอย่างดี และใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ครับ

ทำไมต้องเลือก Aurora Clinic สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ที่สุราษฎร์ธานีและเกาะสมุย?

หากคุณกำลังมองหาคลินิกเสริมความงามที่ สุราษฎร์ธานี หรือ เกาะสมุย เพื่อทำการฉีดฟิลเลอร์ ผมขอแนะนำ Aurora Clinic ครับ เพราะเรามีสิ่งที่คุณต้องการ

• ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ทีมแพทย์ของเราทุกคนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์มาอย่างยาวนาน พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
• ผลิตภัณฑ์คุณภาพ: เราเลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง ได้รับการรับรองจาก อย. และนำเข้าจากบริษัทชั้นนำระดับโลกเท่านั้น
• เทคโนโลยีที่ทันสมัย: เรามีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัย
• บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง: คลินิกของเราถูกออกแบบมาให้มีความสะดวกสบายและผ่อนคลาย เพื่อให้ทุกท่านรู้สึกเหมือนมาพักผ่อน
• บริการที่ประทับใจ: เราใส่ใจในทุกรายละเอียดของการบริการ เพื่อให้ทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก Aurora Clinic ทั้งที่ สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย ครับ

เสียงจากผู้ใช้บริการจริง...ยืนยันความประทับใจ
 

"ตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกที่ Aurora Clinic ประทับใจมากค่ะ คุณหมอให้คำแนะนำดีมาก มือเบามาก ไม่เจ็บเลย หลังฉีดหน้าดูอิ่มฟูขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ชอบมากค่ะ" - คุณ A จากสุราษฎร์ธานี

"มาเที่ยวสมุยก็แวะมาเติมฟิลเลอร์ที่ Aurora Clinic ค่ะ คลินิกสะอาด พนักงานน่ารัก คุณหมอใจดี ให้คำแนะนำตรงจุด ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากค่ะ" - คุณ B จากต่างประเทศ

ไขข้อสงสัยยอดฮิตเกี่ยวกับฟิลเลอร์

(ส่วนนี้อาจจะเพิ่มคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ พร้อมคำตอบจากหมอเติ้ง)

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน? โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ HA จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด
• ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม? ก่อนฉีดจะมีการทายาชา ทำให้รู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
• หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องพักฟื้นไหม? ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที
• ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์? ผู้ที่มีอาการแพ้สาร HA ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีด

อนาคตของฟิลเลอร์...นวัตกรรมความงามที่ไม่หยุดนิ่ง

ในอนาคต เทคโนโลยีด้านฟิลเลอร์ก็จะยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการคิดค้นฟิลเลอร์ชนิดใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น ระยะเวลาการคงอยู่ยาวนานขึ้น และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการนำฟิลเลอร์มาประยุกต์ใช้ในการรักษาปัญหาความงามอื่นๆ นอกเหนือจากการเติมเต็มและปรับรูปหน้า เช่น การรักษาหลุมสิว หรือการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์

บทสรุป...ความอ่อนเยาว์ที่คุณสัมผัสได้

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ "ฟิลเลอร์" ให้กับทุกท่านได้นะครับ ถ้าใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการคืนความอ่อนเยาว์และเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ฟิลเลอร์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ

และถ้าคุณกำลังมองหาคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือใน สุราษฎร์ธานี หรือ เกาะสมุย อย่าลืมนึกถึง Aurora Clinic นะครับ ผมและทีมแพทย์ของเราพร้อมที่จะดูแลและมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทุกท่านครับ

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายเข้ารับการปรึกษา สามารถติดต่อ Aurora Clinic ได้ที่

Aurora Clinic สาขา Samui ✨
FACEBOOK: facebook.com/auroraclinicsurat
Add line จองโปรโมชั่น : https://lin.ee/PJSVPOv6  (@aurorasamui)
TEL : 083-629-1446
Location : https://maps.app.goo.gl/y1a4H3wX5reeJU989
Opening Hours : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น. 

Aurora Clinic สาขาสุราษฎร์ธานี ✨
FACEBOOK: facebook.com/auroraclinicsamui
Tel : 096-652-0899
Line : @auroraclinic
Location : https://maps.app.goo.gl/MfSBczSYdXZ2xctr9
Opening Hours : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น.

เรายินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความอบอุ่นและพร้อมที่จะดูแลคุณให้สวยและมั่นใจในแบบที่เป็นคุณครับ