สวัสดีครับทุกท่าน! ผม นพ.อภิรักษ์ วงษ์เสาวศุภ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “หมอเติ้ง” แพทย์ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Aurora Clinic คลินิกเสริมความงาม ที่ตั้งใจปั้นความมั่นใจและเติมเต็มความสวยในแบบที่เป็นคุณ ทั้งที่ สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย ครับ วันนี้ผมอยากจะมาพูดคุยแบบสบายๆ แต่เจาะลึกถึงเรื่องที่หลายๆ คนถามกันเข้ามาเยอะมากกกก… นั่นก็คือเรื่องของ โบท็อกซ์ (Botox) ครับ!
เชื่อไหมครับว่าในฐานะแพทย์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการ คลินิกเสริมความงาม มานาน ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของคนไข้มากมาย แต่สิ่งที่ยังคงได้รับความนิยมและเป็นเหมือน “พระเอก” ในการปรับรูปหน้าให้สวยเป๊ะอยู่เสมอ ก็คือเจ้า โบท็อกซ์ นี่แหละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่กำลังกังวลเรื่อง “หน้าบาน” อยากมี “หน้าเรียว” สวยเฉี่ยวแบบดารา ผมบอกเลยว่า โบท็อกซ์ นี่แหละคือตัวช่วยสำคัญ!
แต่ก่อนที่เราจะไปลงลึกถึงเรื่อง โบท็อกซ์ กับการเปลี่ยน “หน้าบาน” เป็น “หน้าเรียว” ผมอยากจะเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของ Aurora Clinic สักเล็กน้อยครับ เพราะผมเชื่อว่าการที่เราจะมอบความไว้วางใจให้ใครดูแลเรื่องความสวยความงามของเรา สิ่งสำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นและความเข้าใจในปรัชญาของคลินิกนั้นๆ ครับ
Aurora Clinic เริ่มต้นจากความตั้งใจของผมที่อยากจะสร้าง คลินิกเสริมความงาม ที่ไม่ได้มองแค่เรื่องความสวยงามภายนอก แต่เราใส่ใจถึงความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงของคนไข้แต่ละคน เราเชื่อว่าทุกคนมีความสวยงามในแบบของตัวเอง และหน้าที่ของเราคือการช่วยดึงความสวยงามนั้นออกมาให้เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น ด้วยทีมแพทย์และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้ Aurora Clinic เป็นที่ไว้วางใจของคนไข้ทั้งใน สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย มาอย่างยาวนานครับ
และแน่นอนว่าหนึ่งในบริการยอดนิยมของเราก็คือการฉีด โบท็อกซ์ ครับ ซึ่งไม่ใช่แค่การฉีดเพื่อลดริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยครับ
อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่า โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าที่คุ้นหู แต่จริงๆ แล้วสาระสำคัญของมันคือ Botulinum Toxin Type A ครับ ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Clostridium botulinum ครับ ฟังดูอาจจะน่าตกใจสักหน่อย แต่ต้องบอกว่าในทางการแพทย์ เราได้นำสารนี้มาใช้ประโยชน์อย่างมากมายเลยทีเดียวครับ
เรื่องราวของ Botulinum Toxin เริ่มต้นจากการค้นพบในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อเกิดการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษจากการบริโภคไส้กรอกที่ไม่สะอาด นักวิทยาศาสตร์พบว่าสาเหตุมาจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ที่ผลิตสารพิษร้ายแรงออกมา แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ ในที่สุดนักวิทยาศาสตร์ก็สามารถสกัดและทำให้สารพิษนี้บริสุทธิ์ จนกลายเป็นยาที่มีประโยชน์มากมายครับ
ในทางการแพทย์ เริ่มมีการนำ Botulinum Toxin มาใช้รักษาโรคต่างๆ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 เช่น โรคตาเหล่ (Strabismus) โรคกล้ามเนื้อคอกระตุก (Cervical Dystonia) และภาวะกล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติอื่นๆ ครับ จนกระทั่งในปี 2002 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติให้ใช้ Botulinum Toxin Type A ในด้านความงาม เพื่อลดเลือนริ้วรอยบริเวณหว่างคิ้ว และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความนิยมในการใช้ โบท็อกซ์ เพื่อเสริมความงามอย่างแพร่หลายทั่วโลกครับ
หัวใจสำคัญของการทำงานของ โบท็อกซ์ คือการเข้าไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า Acetylcholine ครับ สารนี้มีหน้าที่ในการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว เมื่อเราฉีด โบท็อกซ์ เข้าไปในกล้ามเนื้อ สารนี้จะไปจับกับปลายประสาท ทำให้การส่งสัญญาณ Acetylcholine ถูกบล็อกชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัวและไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติครับ
เมื่อเราฉีด โบท็อกซ์ เข้าไปที่กล้ามเนื้อกราม (Masseter Muscle) สิ่งที่เกิดขึ้นคือสาร Botulinum Toxin Type A จะเข้าไป “บล็อก” การสื่อสารระหว่างเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อครับ เปรียบเสมือนการที่เราส่งสัญญาณไปบอกกล้ามเนื้อว่า “ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเดิมแล้วนะ พักผ่อนได้”
ในระยะแรกหลังการฉีด ประมาณ 1-2 สัปดาห์ คุณจะเริ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อกรามบริเวณข้างแก้มมีความตึงน้อยลง อาจจะรู้สึกนิ่มขึ้นเมื่อลองจับดู นั่นเป็นสัญญาณว่า โบท็อกซ์ เริ่มออกฤทธิ์ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ไม่หดเกร็งเหมือนเดิม
นี่คือหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ “หน้าเรียว” ครับ เมื่อกล้ามเนื้อกรามไม่ได้รับการกระตุ้นให้หดตัวอย่างเต็มที่เหมือนเคย เนื่องจาก โบท็อกซ์ ไปยับยั้งการส่งสัญญาณประสาท กล้ามเนื้อก็จะค่อยๆ “ลีบ” ลง หรือมีขนาดเล็กลงครับ หลักการนี้คล้ายกับการที่เราไม่ได้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อนั้นก็จะค่อยๆ เล็กลงและอ่อนแรงลงนั่นเองครับ
ลองนึกภาพนะครับว่า กล้ามเนื้อกรามที่เคยมีขนาดใหญ่และแข็งแรง ทำให้ใบหน้าบริเวณขากรรไกรดูกว้างและเป็นเหลี่ยม เหมือนมี “ก้อนเนื้อ” ที่ทำให้กรอบหน้าไม่เรียวสวย เมื่อเราฉีด โบท็อกซ์ และกล้ามเนื้อค่อยๆ มีขนาดเล็กลง “ก้อนเนื้อ” เหล่านั้นก็จะค่อยๆ ยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าบริเวณขากรรไกรดูแคบและเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
การที่กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลงยังส่งผลต่อองศาของใบหน้าด้วยครับ ใบหน้าที่เคยดูกว้างและเป็นเหลี่ยม (คล้ายรูปสี่เหลี่ยม) ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปหน้าที่เรียวขึ้น มีช่วงคางที่ดูแคบลง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเป็นรูปตัว V มากขึ้น ซึ่งเป็นรูปหน้าที่หลายๆ คนปรารถนาครับ
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด แต่จะเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป ทำให้การเปลี่ยนแปลงดูเป็นธรรมชาติและไม่突兀ครับ คนรอบข้างอาจจะสังเกตว่าคุณดูสวยขึ้น ดูดีขึ้น แต่บอกไม่ถูกว่าไปทำอะไรมา นั่นแหละครับคือผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติของการฉีด โบท็อกซ์ เพื่อปรับรูปหน้า
ถึงแม้ว่าเราจะเน้นไปที่กล้ามเนื้อกรามในการปรับรูปหน้าให้เรียว แต่ในบางกรณี แพทย์อาจจะพิจารณาฉีด โบท็อกซ์ ในบริเวณอื่นๆ ของใบหน้า เช่น กล้ามเนื้อบริเวณคาง (Mentalis Muscle) เพื่อช่วยให้คางดูเรียวยาวขึ้น หรือกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้า (Platysma Muscle) เพื่อช่วยยกกระชับกรอบหน้าให้คมชัดยิ่งขึ้น ซึ่งจะยิ่งเสริมให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวสวยมากยิ่งขึ้นครับ
จากประสบการณ์ของผมที่ Aurora Clinic ผมได้เห็นคนไข้จำนวนมากที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงรูปหน้าจาก “หน้าบาน” เป็น “หน้าเรียว” ด้วย โบท็อกซ์ ครับ พวกเขามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าที่จะยิ้มและถ่ายรูปมากขึ้น และมีความสุขกับรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
เป็นเรื่องจริงที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า คำว่า “โบท็อกซ์” ที่เราคุ้นเคยกันนั้น จริงๆ แล้วเป็นเพียงชื่อทางการค้าของผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin Type A จากบริษัท Allergan เท่านั้นครับ เหมือนกับที่เราเรียกผงซักฟอกว่า “แฟ้บ” ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วอาจจะเป็นยี่ห้ออื่นก็ได้
ในความเป็นจริงแล้ว ในตลาดปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin Type A จากหลากหลายบริษัทผู้ผลิตทั่วโลกครับ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีชื่อทางการค้าที่แตกต่างกันออกไปครับ
ถึงแม้ว่าจะมีหลายยี่ห้อ แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีสารออกฤทธิ์หลักเหมือนกันครับ นั่นก็คือ Botulinum Toxin Type A ซึ่งเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่ออกฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทบริเวณกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว
ตัวอย่างชื่อทางการค้าของ Botulinum Toxin Type A ที่อาจจะเคยได้ยิน
จุดเด่น: ถือเป็นผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin Type A ตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีประวัติการใช้งานที่ยาวนานและงานวิจัยรองรับมากมาย ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์และผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน
ลักษณะ: มักถูกมองว่าเป็น "Gold Standard" ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin Type A
ข้อควรทราบ: มีราคาค่อนข้างสูงกว่าบางยี่ห้อ
จุดเด่น: เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล มีจุดเด่นในเรื่องของหน่วยการวัดที่แตกต่างจาก Botox® (โดยประมาณ 1 ยูนิตของ Botox® จะเท่ากับ 2.5-3 ยูนิตของ Dysport®) และอาจมีการกระจายตัวของยาที่กว้างกว่าเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการรักษาบางบริเวณ เช่น การลดเลือนริ้วรอยบริเวณกว้าง
ลักษณะ: ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และอาจเริ่มเห็นผลเร็วกว่าในบางคน
ข้อควรทราบ: หน่วยการวัดที่แตกต่างอาจทำให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยสับสนได้
จุดเด่น: สิ่งที่โดดเด่นของ Xeomin® คือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "Pure" Botulinum Toxin Type A ซึ่งหมายถึงมีเพียงโมเลกุลของ Neurotoxin ที่ออกฤทธิ์ โดยไม่มี Complexing Proteins ที่อาจพบได้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งบางคนเชื่อว่าอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดการดื้อยาในระยะยาว
ลักษณะ: ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และอาจมีโอกาสในการเกิดการแพ้ต่ำกว่าในบางราย
ข้อควรทราบ: อาจมีราคาที่สูงกว่าบางยี่ห้อ
จุดเด่น: เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย มีคุณภาพที่ดีและมักจะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าบางยี่ห้อ ทำให้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการฉีด Botulinum Toxin Type A
ลักษณะ: ให้ผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพอใจ และมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย
ข้อควรทราบ: อาจมีข้อมูลและงานวิจัยรองรับน้อยกว่า Botox® ในบางแง่มุม
จุดเด่น: คล้ายกับ Nabota® คือเป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมและมีราคาที่แข่งขันได้ มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายคลินิก
ลักษณะ: ให้ผลลัพธ์ที่ดี และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
ข้อควรทราบ: เช่นเดียวกับ Nabota® อาจมีข้อมูลและงานวิจัยรองรับน้อยกว่า Botox® ในบางแง่มุม
ความแตกต่างที่อาจมี:
ถึงแม้ว่าสารออกฤทธิ์หลักจะเหมือนกัน แต่ผลิตภัณฑ์ โบท็อกซ์ แต่ละยี่ห้ออาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของ:
ในฐานะแพทย์ ผมมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin Type A ไม่ใช่แค่ชื่อยี่ห้อ แต่เป็นเรื่องของ คุณภาพ ความปลอดภัย และ ความน่าเชื่อถือ ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ครับ ผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้จะต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอาหารและยา (อย.) ของแต่ละประเทศ รวมถึงต้องมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยที่รองรับถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ โบท็อกซ์ ที่เป็น ของแท้ เท่านั้นครับ ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐานจำนวนมากในตลาด ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ดังนั้น การเลือก คลินิกเสริมความงาม ที่มีความน่าเชื่อถือและใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบได้จึงเป็นเรื่องสำคัญมากครับ
นอกเหนือจากความสามารถอันโดดเด่นในการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยแล้ว โบท็อกซ์ ยังมีประโยชน์อีกมากมายในโลกของความงามและการรักษาโรค ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบครับ ผมอยากจะพาไปดูกันว่าเจ้า โบท็อกซ์ เนี่ย เขามีดีอะไรมากกว่าที่เราคิดกันครับ
นี่อาจจะเป็นประโยชน์ที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วครับ โบท็อกซ์ มีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ หรือที่เราเรียกว่า ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (Dynamic Wrinkles) ซึ่งมักจะปรากฏบริเวณ:
โบท็อกซ์ จะเข้าไปคลายกล้ามเนื้อบริเวณเหล่านี้ ทำให้ริ้วรอยต่างๆ ดูจางลง ผิวหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้นครับ
การฉีด โบท็อกซ์ ในบริเวณที่เหมาะสมรอบดวงตา สามารถช่วยยกหางคิ้วขึ้นเล็กน้อยได้ครับ ทำให้ดวงตาดูเปิดโต สดใส และใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ขึ้น เทคนิคนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นครับ
สำหรับบางท่านที่เวลายิ้มแล้วเห็นเหงือกมากเกินไปจนขาดความมั่นใจ การฉีด โบท็อกซ์ ในปริมาณเล็กน้อยบริเวณเหนือริมฝีปากบน สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งริมฝีปากขึ้นมากเกินไป ทำให้เวลายิ้มเห็นเหงือกน้อยลงและดูสวยงามมากยิ่งขึ้นครับ
รอยย่นเล็กๆ ที่ปรากฏบริเวณข้างจมูกเวลาที่เรายิ้มหรือขยี้ตา บางครั้งก็ทำให้ใบหน้าดูมีอายุได้ การฉีด โบท็อกซ์ ในบริเวณนี้สามารถช่วยให้รอยย่นเหล่านี้ดูเรียบเนียนขึ้นได้ครับ
เทคนิคนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ โดยการฉีด โบท็อกซ์ ในปริมาณเล็กน้อยบริเวณขอบริมฝีปากบน จะช่วยให้ริมฝีปากบนดูยกขึ้นเล็กน้อยและดูอวบอิ่มขึ้นโดยไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ริมฝีปากดูมีวอลลุ่มขึ้นแบบธรรมชาติ
บางคนอาจจะมีรอยย่นเล็กๆ บริเวณคางคล้ายผิวส้ม ซึ่งเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคาง การฉีด โบท็อกซ์ สามารถช่วยให้ผิวบริเวณคางดูเรียบเนียนขึ้นได้ครับ
เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณคออาจจะเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดเป็นแถบแนวตั้งที่เห็นชัดเจน การฉีด โบท็อกซ์ ในบริเวณนี้สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อและทำให้ลำคอดูเรียบเนียนขึ้นได้ครับ
การฉีด โบท็อกซ์ ในบริเวณกรอบหน้า (บริเวณกล้ามเนื้อ Platysma) สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งลง ทำให้กรอบหน้าดูยกกระชับและคมชัดขึ้นได้
สำหรับบางท่านที่อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับขนาดของน่องที่ดูใหญ่ ไม่เรียวสวย ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุทางกรรมพันธุ์ หรือจากการออกกำลังกายที่เน้นกล้ามเนื้อน่องมากเกินไป การฉีด โบท็อกซ์ ก็สามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปรับให้เรียวขาดูสมส่วนและสวยงามมากยิ่งขึ้นได้ครับ
จะเห็นได้ว่า โบท็อกซ์ มีประโยชน์มากมายจริงๆ ครับ แต่การที่จะใช้ โบท็อกซ์ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ การฉีดในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง หรือใช้ปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
ข่าวดีก็คือ โบท็อกซ์ เป็นหัตถการที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความปลอดภัยสูงมากครับ เมื่อได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องกายวิภาคของใบหน้า และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและเป็นของแท้
โบท็อกซ์ ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์มาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้วครับ เริ่มต้นจากการรักษาโรคทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ก่อนที่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในด้านความงาม ผลิตภัณฑ์ โบท็อกซ์ ที่ใช้ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เช่น ที่ Aurora Clinic ของเรา จะต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวด เช่น องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
โบท็อกซ์ ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาท Acetylcholine ที่บริเวณรอยต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว การออกฤทธิ์ของ โบท็อกซ์ จะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่ฉีดเท่านั้นครับ ไม่ได้กระจายตัวไปทั่วร่างกายในปริมาณที่เป็นอันตราย
เช่นเดียวกับการทำหัตถการอื่นๆ โบท็อกซ์ ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่รุนแรงและหายได้เองภายในระยะเวลาสั้นๆ ครับ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น:
ผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการฉีด โบท็อกซ์ นั้นพบได้น้อยมากครับ หากได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
หัวใจสำคัญของความปลอดภัยในการฉีด โบท็อกซ์ คือการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีความเข้าใจในเรื่องกายวิภาคของใบหน้าเป็นอย่างดี รวมถึงการเลือก คลินิกเสริมความงาม ที่ได้มาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีระบบการดูแลความสะอาดและสุขอนามัยที่ดี
อย่างที่ผมได้เกริ่นไปในตอนต้นว่า “หน้าบาน” สามารถมีสาเหตุได้หลากหลายครับ การที่เราจะเลือกวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของ “หน้าบาน” ในแต่ละบุคคลเสียก่อน ซึ่งหลักๆ แล้ว “หน้าบาน” มักจะมาจากปัจจัยเหล่านี้ครับ:
ในบางคน กล้ามเนื้อกรามอาจจะมีขนาดใหญ่และแข็งแรงมากผิดปกติ ซึ่งอาจจะเกิดจาก:
และนี่แหละครับคือจุดที่ โบท็อกซ์ ของเราเข้ามามีบทบาทสำคัญ! เมื่อเราฉีด โบท็อกซ์ ในปริมาณที่เหมาะสมเข้าไปยังกล้ามเนื้อกราม สาร Botulinum Toxin Type A จะเข้าไปออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท Acetylcholine ที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณให้กล้ามเนื้อหดตัว
ลองจินตนาการนะครับว่า กล้ามเนื้อกรามที่เคยทำงานหนักและแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เหมือนนักกีฬาที่ฝึกซ้อมอยู่เสมอ เมื่อเราฉีด โบท็อกซ์ เข้าไป ก็เหมือนกับการ “สั่งพักงาน” กล้ามเนื้อชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเดิม เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ถูกใช้งานหนักๆ ก็จะค่อยๆ คลายตัวและมีขนาดเล็กลง เหมือนกับกล้ามเนื้อแขนที่เราไม่ได้ออกกำลังกายก็จะค่อยๆ เล็กลงนั่นเองครับ
เมื่อกล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง ใบหน้าบริเวณขากรรไกรก็จะดูเรียวและแคบลง ทำให้กรอบหน้าโดยรวมดูคมชัดและสวยงามมากยิ่งขึ้นครับ นี่คือกลไกหลักๆ ที่ทำให้ โบท็อกซ์ สามารถช่วยเปลี่ยน “หน้าบาน” ที่มีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อกราม ให้กลายเป็น “หน้าเรียว” ที่ใครๆ ก็ปรารถนาได้ครับ
นอกจากผลลัพธ์เรื่อง “หน้าเรียว” แล้ว การฉีด โบท็อกซ์ ที่กล้ามเนื้อกรามยังมีผลพลอยได้อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกด้วยนะครับ เช่น:
โดยสรุปแล้ว โบท็อกซ์ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหา “หน้าบาน” ที่มีสาเหตุหลักมาจาก กล้ามเนื้อกรามที่มีขนาดใหญ่ ครับ หาก “หน้าบาน” ของคุณเกิดจากโครงสร้างกระดูกหรือไขมันสะสม การรักษาด้วย โบท็อกซ์ อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดครับ
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจฉีด โบท็อกซ์ คือการเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพใบหน้าของคุณอย่างละเอียด และให้คำแนะนำถึงแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดครับ ที่ Aurora Clinic ของเรา ทีมแพทย์ทุกคนพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและตอบทุกข้อสงสัยของคุณอย่างตรงไปตรงมาครับ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ สุราษฎร์ธานี หรือ เกาะสมุย สามารถเข้ามาพูดคุยกับเราได้เลยครับ เรายินดีที่จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุของ “หน้าบาน” และแนะนำวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมกับคุณที่สุดครับ
การฉีด โบท็อกซ์ เปรียบเสมือนการดูแลผิวพรรณและปรับรูปหน้าแบบที่เราต้องใส่ใจในรายละเอียดหลายๆ อย่างครับ ผลลัพธ์ที่ได้และระยะเวลาที่ โบท็อกซ์ จะคงอยู่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตัวยาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ
การเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถตั้งความคาดหวังเกี่ยวกับการฉีด โบท็อกซ์ ได้อย่างเหมาะสม และสามารถดูแลตัวเองหลังการฉีดได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด
ถึงแม้ว่า โบท็อกซ์ จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่แนะนำให้ฉีดครับ ได้แก่:
สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่คุณจะตัดสินใจฉีด โบท็อกซ์ คือการเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและกล้ามเนื้อของคุณอย่างละเอียด สอบถามประวัติทางการแพทย์ และรับฟังความต้องการของคุณ เพื่อให้คำแนะนำว่า โบท็อกซ์ เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับคุณหรือไม่ และควรจะฉีดในบริเวณใดบ้าง ในปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดครับ
ที่ Aurora Clinic ทั้งใน สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย เราให้ความสำคัญกับการปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาทุกครั้งครับ ผมและทีมแพทย์ของเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและตอบทุกข้อสงสัยของคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจและตัดสินใจได้อย่างถูกต้องครับ อย่าลังเลที่จะเข้ามาพูดคุยกับเรานะครับ เรายินดีที่จะดูแลและให้คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับคุณครับ
ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งของคนไข้หลายต่อหลายท่านที่เคยมีความกังวลเกี่ยวกับรูปหน้าที่ดูกว้าง ไม่เรียว หรืออาจจะรู้สึกว่าทำให้ขาดความมั่นใจ การฉีด โบท็อกซ์ เพื่อปรับลดขนาดกล้ามเนื้อกราม (Masseter Muscle) ได้เข้ามาเป็นเหมือน “เวทมนตร์” ที่ช่วยเนรมิตให้ใบหน้าของพวกเขากลับมาดูเรียวสวย สมส่วน และสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ
ลองจินตนาการดูนะครับ คนไข้บางท่านที่เคยหลีกเลี่ยงการถ่ายรูปมุมตรง เพราะไม่มั่นใจในกรอบหน้าที่ดูกว้าง หลังจากที่ได้ลองฉีด โบท็อกซ์ เพื่อปรับรูปหน้า พวกเขากลับมายิ้มได้อย่างเต็มที่ กล้าที่จะถ่ายรูปในทุกมุม และมีความสุขกับภาพถ่ายของตัวเองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หรือบางท่านที่อาจจะเคยรู้สึกว่าใบหน้าดูกลม ทำให้ดูมีอายุมากกว่าวัย หลังจากที่ได้ปรับรูปหน้าด้วย โบท็อกซ์ ใบหน้าของพวกเขาก็ดูเรียวขึ้น ดูอ่อนเยาว์ลง และมีความมั่นใจในการเข้าสังคมมากขึ้นครับ
สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากการเปลี่ยนแปลงของคนไข้เหล่านี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือความรู้สึกมั่นใจในตัวเองที่เพิ่มมากขึ้นครับ เมื่อพวกเขามีความสุขกับรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ก็ส่งผลให้พวกเขามีความกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น กล้าที่จะเข้าสังคม กล้าที่จะแสดงออก และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นอย่างแท้จริงครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำคือ การฉีด โบท็อกซ์ เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวนั้น จะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและค่อยเป็นค่อยไปครับ ไม่ใช่ว่าฉีดวันนี้แล้วพรุ่งนี้หน้าจะเรียวขึ้นทันทีทันใด แต่กล้ามเนื้อกรามจะค่อยๆ เล็กลงในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังการฉีด ทำให้การเปลี่ยนแปลงดูเป็นธรรมชาติและไม่突兀ครับ
ผมจำได้ว่ามีคนไข้ท่านหนึ่งที่มาปรึกษาผมด้วยความกังวลเรื่อง “หน้าบาน” มากครับ เธอเล่าว่ามักจะโดนเพื่อนๆ แซวว่า “หน้ากลมเหมือนพระจันทร์” ทำให้เธอขาดความมั่นใจมากๆ เวลาถ่ายรูปหรือเข้าสังคม หลังจากที่ผมได้ประเมินใบหน้าของเธอแล้ว พบว่าสาเหตุหลักมาจากกล้ามเนื้อกรามที่ค่อนข้างใหญ่ ผมจึงแนะนำให้เธอฉีด โบท็อกซ์ เพื่อปรับรูปหน้า
หลังจากผ่านไปประมาณ 1 เดือน เธอกลับมาหาผมด้วยรอยยิ้มที่สดใสขึ้นมาก เธอเล่าว่าเพื่อนๆ ทักว่าหน้าดูเรียวขึ้น และที่สำคัญคือเธอรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าที่จะถ่ายรูปในมุมต่างๆ และมีความสุขกับการแต่งหน้าทำผมมากขึ้นครับ นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ตัวอย่างที่ผมได้เห็นถึงพลังของการเปลี่ยนแปลงจาก “หน้าบาน” สู่ “หน้าเรียว” ด้วย โบท็อกซ์ ครับ
ถึงแม้ว่า โบท็อกซ์ จะสามารถช่วยเปลี่ยน “หน้าบาน” เป็น “หน้าเรียว” ได้จริง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่ผมได้กล่าวไปแล้ว เช่น ขนาดของกล้ามเนื้อกราม ระบบเผาผลาญ และการตอบสนองของร่างกายต่อ โบท็อกซ์
ผมขอแนะนำให้คุณเข้ามาปรึกษาผมหรือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Aurora Clinic ทั้งใน สุราษฎร์ธานี และ เกาะสมุย นะครับ เราจะทำการประเมินสภาพใบหน้าของคุณอย่างละเอียด รับฟังความต้องการของคุณ และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณที่สุดครับ
อย่าปล่อยให้ความไม่มั่นใจในเรื่อง “หน้าบาน” มาบั่นทอนความสุขและโอกาสดีๆ ในชีวิตของคุณเลยครับ มาปรึกษาเราที่ Aurora Clinic สิครับ แล้วคุณอาจจะพบว่าชีวิตของคุณสามารถเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้จริงๆ จากการปรับรูปหน้าด้วย โบท็อกซ์ ครับ!
ผมและทีมแพทย์ Aurora Clinic พร้อมที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดและมิตรคู่ความงามของคุณครับ ไม่ว่าคุณจะมีความกังวลใจในเรื่องใดเกี่ยวกับความงาม หรืออยากจะปรึกษาเรื่องการปรับรูปหน้าด้วย โบท็อกซ์ เพื่อให้ได้ “หน้าเรียว” ที่สวยมั่นใจ สามารถเข้ามาปรึกษาเราได้เลยครับ เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะครับ
สำหรับท่านที่สนใจบริการฉีด โบท็อกซ์ เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย หรือบริการอื่นๆ ของ คลินิกเสริมความงาม Aurora Clinic สามารถติดต่อสอบถามหรือนัดหมายเข้ามาปรึกษาได้ที่:
Aurora Clinic สาขา Samui ✨
FACEBOOK: facebook.com/auroraclinicsurat
Add line จองโปรโมชั่น : https://lin.ee/PJSVPOv6 (@aurorasamui)
TEL : 083-629-1446
Location : https://maps.app.goo.gl/y1a4H3wX5reeJU989
Opening Hours : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น.
Aurora Clinic สาขาสุราษฎร์ธานี ✨
FACEBOOK: facebook.com/auroraclinicsamui
Tel : 096-652-0899
Line : @auroraclinic
Location : https://maps.app.goo.gl/MfSBczSYdXZ2xctr9
Opening Hours : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น.
เรายินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความอบอุ่นและพร้อมที่จะดูแลคุณให้สวยและมั่นใจในแบบที่เป็นคุณครับ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านเข้าใจเรื่อง โบท็อกซ์ กับการเปลี่ยน “หน้าบาน” เป็น “หน้าเรียว” มากยิ่งขึ้นนะครับ อย่าลืมนะครับว่าความสวยงามเป็นเรื่องของความมั่นใจ และที่ Aurora Clinic เราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความมั่นใจนั้นให้กับคุณครับ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ คลินิกเสริมความงาม สุราษฎร์ธานี หรือ เกาะสมุย เรายินดีให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากลและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ
หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบท็อกซ์ หรือบริการอื่นๆ ของคลินิก สามารถสอบถามเข้ามาได้เลยนะครับ ผมและทีมงาน Aurora Clinic ยินดีตอบทุกข้อสงสัยครับ แล้วพบกันที่ Aurora Clinic นะครับ!
Q&A กับหมอเติ้ง: เคลียร์ทุกข้อสงสัย เรื่อง “โบท็อกซ์” กับ “หน้าเรียว”
เอาล่ะครับ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเรื่อง โบท็อกซ์ มากยิ่งขึ้น ผมได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ โบท็อกซ์ กับการเปลี่ยน “หน้าบาน” เป็น “หน้าเรียว” มาตอบให้ทุกคนได้คลายความสงสัยกันครับ
Q: ฉีดโบท็อกซ์แล้วจะเห็นผลเลยไหม?
หมอเติ้ง: โดยทั่วไปแล้ว หลังจากฉีด โบท็อกซ์ จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ครับ และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ครับ กล้ามเนื้อกรามจะค่อยๆ เล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ
Q: ฉีดโบท็อกซ์เจ็บไหม?
หมอเติ้ง: ความรู้สึกเจ็บจากการฉีด โบท็อกซ์ ถือว่าน้อยมากครับ ส่วนใหญ่จะรู้สึกเหมือนโดนมดกัดเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ ก่อนฉีดเราจะมีการประคบเย็นเพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวด้วยครับ
Q: ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าจะแข็ง ตึง หรือดูไม่เป็นธรรมชาติไหม?
หมอเติ้ง: การฉีด โบท็อกซ์ เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวยนั้น จะเน้นความเป็นธรรมชาติครับ เราจะฉีดในปริมาณที่เหมาะสมและตรงจุด เพื่อให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัวและเล็กลง โดยที่ยังคงสามารถแสดงสีหน้าและบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติครับ ที่สำคัญคือการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจกายวิภาคของใบหน้าเป็นอย่างดี จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเป็นธรรมชาติครับ
Q: โบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน? ต้องฉีดซ้ำบ่อยแค่ไหน?
หมอเติ้ง: โดยเฉลี่ยแล้ว ผลลัพธ์ของ โบท็อกซ์ จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือนครับ ซึ่งระยะเวลาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณ โบท็อกซ์ ที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด และการตอบสนองของร่างกายแต่ละคนครับ เมื่อ โบท็อกซ์ เริ่มหมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อกรามก็จะค่อยๆ กลับมาทำงานตามปกติ หากต้องการคงผลลัพธ์ไว้ ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ครับ โดยทั่วไปแล้ว เราแนะนำให้ฉีดซ้ำเมื่อรู้สึกว่ากล้ามเนื้อกรามเริ่มกลับมาใหญ่ขึ้นครับ
Q: ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์?
หมอเติ้ง: ถึงแม้ว่า โบท็อกซ์ จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีบางกรณีที่ไม่แนะนำให้ฉีดครับ เช่น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ หรือผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Botulinum Toxin ครับ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีด โบท็อกซ์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพร่างกายและรับคำแนะนำที่เหมาะสมก่อนครับ
Q: ฉีดโบท็อกซ์ที่ Aurora Clinic แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร?
หมอเติ้ง: ที่ Aurora Clinic เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ โบท็อกซ์ ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ผ่านการรับรองจากอย. ทุกขวดเป็นของแท้ 100% สามารถตรวจสอบได้ครับ ที่สำคัญที่สุดคือการฉีด โบท็อกซ์ ทุกเคสจะดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้าด้วย โบท็อกซ์ มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่ตรงจุด ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติอย่างที่คุณต้องการครับ นอกจากนี้ เรายังมีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการรักษาครับ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ สุราษฎร์ธานี หรือ เกาะสมุย ก็สามารถมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานการบริการของเราได้ครับ